สำหรับธุรกิจที่มีพนักงานชาวต่างชาติในประเทศไทย การดำเนินการขอวีซ่าทำงาน (NON-B Visa) และใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้ถูกต้องตามกฎหมาย คือสิ่งจำเป็นแต่กระบวนการนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะความซับซ้อนของเอกสาร กฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงบ่อย และขั้นตอนที่ใช้เวลา อาจกลายเป็นภาระที่สร้างความยุ่งยากและเสี่ยงต่อความผิดพลาดได้ง่าย
นี่คือเหตุผลที่หลายองค์กรเลือกใช้บริการรับทำวีซ่า Work Permit ครบวงจร จากผู้เชี่ยวชาญอย่าง RLC Outsourcing เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นไปตามกฎหมาย โดยไม่ต้องเสียเวลาจัดการเอง
ทำไมการจัดการวีซ่าทำงานและ Work Permit ด้วยตนเองจึงมีความท้าทาย และการใช้มืออาชีพคือคำตอบ?
การมองว่า HR ในบริษัทสามารถดูแลเรื่องวีซ่าและ Work Permit ให้พนักงานต่างชาติได้ อาจเป็นความคิดแรกสำหรับหลาย ๆ องค์กร แต่เมื่อลงมือทำจริง ปัญหาและความซับซ้อนมักเกิดขึ้น ทำให้การดำเนินการด้วยตนเองกลายเป็นเรื่องที่สร้างความปวดหัวและเสียเวลา การพิจารณาถึงความท้าทายเหล่านี้จะช่วยให้เห็นถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ของการใช้บริการทำ Work Permit และวีซ่าอย่างครบวงจรโดยผู้เชี่ยวชาญ
ปัญหาที่พบบ่อย จากการยื่นวีซ่า Work Permit เอง
จากประสบการณ์ มักพบปัญหาเหล่านี้เมื่อองค์กรเลือกยื่นขอวีซ่าและ Work Permit สำหรับพนักงานต่างชาติด้วยตนเอง
- เอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามประเภท: ข้อกำหนดเอกสารมีความละเอียดอ่อนและแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี เพียงผิดเล็กน้อยก็อาจทำให้คำขอไม่ผ่าน
- ความสับสนในขั้นตอนและกฎที่เปลี่ยนแปลง: กฎระเบียบและกระบวนการของหน่วยงานราชการมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากไม่อัปเดตข้อมูล อาจทำให้ดำเนินการผิดพลาดได้
- เสียเวลามากเกินไป: ทั้งการเตรียมเอกสาร การเดินทางไปยื่น การรอคิว และการติดตามผล ล้วนใช้เวลาอันมีค่าของฝ่าย HR และพนักงาน
- ข้อผิดพลาดเล็กน้อยนำไปสู่ความล่าช้าครั้งใหญ่: การพิมพ์ข้อมูลผิดเพียงตัวเดียว หรือการตกหล่นเอกสารสำคัญ ก็อาจหมายถึงการต้องกลับไปเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด
- อุปสรรคด้านการสื่อสาร: การติดต่อประสานงานโดยตรงกับหน่วยงานภาครัฐ อาจมีความท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ภาษาอังกฤษ อธิบายกรณีที่ซับซ้อนระหว่างเจ้าหน้าที่กับพนักงานต่างชาติ
ข้อดีของการใช้บริการรับทำวีซ่า Work Permit โดยมืออาชีพ
การใช้บริการรับทำวีซ่า Work Permit ครบวงจรโดยผู้เชี่ยวชาญ สามารถเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการสื่อสาร ให้กับทีมงานของคุณ ข้อดีที่เห็นได้ชัด ได้แก่
- ความถูกต้องแม่นยำ: มั่นใจได้ว่าเอกสารและขั้นตอนทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดล่าสุด
- ประหยัดเวลาและลดภาระ: ทีมงานของคุณมีเวลาโฟกัสกับงานหลักสำคัญอื่น ๆ ขององค์กรมากขึ้น
- ลดความเสี่ยง: หลีกเลี่ยงปัญหาและความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่การล่าช้า การปฏิเสธ หรือปัญหาทางกฎหมาย
- กระบวนการที่ราบรื่น: ผู้เชี่ยวชาญจะดูแลและประสานงานทุกขั้นตอนให้คุณ ตั้งแต่ต้นจนจบ
บริการรับทำวีซ่าและใบอนุญาตทำงานของเราครอบคลุมอะไรบ้าง?
บริการยื่นวีซ่าประเภทธุรกิจ (Non-B)
RLC ของเรานั้นมีบริการรับทำวีซ่าและ Work Permit ในวีซ่าประเภทธุรกิจ (Non–B) หรือ Non-Immigrant Visa ประเภท B (Business Visa) ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทวีซ่าชั่วคราวสำหรับชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะเข้ามาทำงานหรือดำเนินกิจการในประเทศไทย
บริการยื่นวีซ่าประเภทธุรกิจ (BOI)
วีซ่า BOI คือ วีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของประเทศไทย ซึ่งการยื่นขอวีซ่า BOI มีรายละเอียดเฉพาะที่แตกต่างจากการขอวีซ่าทั่วไป รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงาน BOI โดยตรง อาจทำให้เกิดความสับสนในการติดต่อและเตรียมเอกสาร
ดังนั้นสิ่งที่ตอบโจทย์คือการใช้บริการรับทำวีซ่า Work Permit ครบวงจร กับ RLC Outsourcing ที่มีประสบการณ์ตรงในการดูแลกระบวนการยื่นวีซ่าประเภทธุรกิจทั้งหมด พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำ และดำเนินการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเชื่อถือได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
บริการต่ออายุ Work Permit / เปลี่ยนนายจ้าง
อย่างที่คนทำงานสาย HR ล้วนทราบกันดีว่าเรื่องเอกสารเกี่ยวกับการจ้างงานนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะเมื่อต้องต่ออายุใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หรือเปลี่ยนนายจ้างสำหรับชาวต่างชาติซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความรอบคอบ หากดำเนินการไม่ทันหรือผิดพลาด อาจส่งผลให้พนักงานต้องหยุดงานชั่วคราว หรือกระทบต่อสถานะการทำงานในประเทศไทยได้ทันที
เพื่อให้การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างราบรื่น การเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการรับทำวีซ่าและ Work Permit รวมถึงดูแลในส่วนของการจัดเตรียมเอกสารกรณีเปลี่ยนนายจ้างสำหรับชาวต่างชาติ จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดความยุ่งยากและความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอคำปรึกษา ฟรี!ขั้นตอนการดำเนินงาน & ไทม์ไลน์
ต่อมา RLC Outsourcing จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงขั้นตอนในการยื่นขอวีซ่า Non-B อย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานต่างชาติจะสามารถเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสามารถดำเนินการได้ 2 แนวทางหลัก ดังนี้
- การขอยื่นวีซ่าจากต่างประเทศ ผ่านสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยในประเทศต้นทาง
- การขอยื่นวีซ่าจากภายในประเทศไทย
ขั้นตอนการดำเนินการขอวีซ่าทำงาน (Non-B Visa)
ขั้นตอนการดำเนินการขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
ค่าใช้จ่ายและแพ็กเกจ
แพ็คเกจบริการรับทำวีซ่า Work Permit (Non-B) ครบวงจร
สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อใช้บริการแพ็กเกจบริการรับทำวีซ่า Work Permit (Non-B) กับ RLC Outsourcing
- ให้คำปรึกษาและตรวจสอบเอกสารการยื่นคำร้องขอวีซ่า รวมถึงการให้ Checklist เอกสารที่ต้องใช้เพื่อความสะดวก พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการขอเอกสารประเภทต่าง ๆ
- ช่วยจัดเตรียมและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร
- สนับสนุนหน้างาน ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกรมแรงงาน
- บริการล่ามภาษาอังกฤษเพื่อสนับสนุนการสื่อสารระหว่างชาวต่างชาติและหน่วยงานต่าง ๆ
แพ็กเกจบริการรับทำวีซ่า Work Permit (BOI) ครบวงจร
สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อใช้บริการแพ็กเกจบริการรับทำวีซ่า Work Permit (BOI) กับ RLC Outsourcing
- บริการติดต่อขอรับตำแหน่งผ่านระบบ BOI Single Window
- บริการให้คำปรึกษาและตรวจสอบเอกสารการยื่นคำร้องขอวีซ่า รวมถึงการให้ Checklist เอกสารที่ต้องใช้เพื่อความสะดวก พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการขอเอกสารประเภทต่าง ๆ
- ช่วยจัดเตรียมและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร
- ให้การสนับสนุนหน้างานเมื่อต้องทำการติดต่อขอยื่นรับทำวีซ่า Work Permit ที่ One Bangkok หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสำนักงานแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ
หมายเหตุ
- ค่าบริการในการรับทำวีซ่า Work Permit ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมจริงและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งทางลูกค้าจะต้องชำระโดยตรงกับหน่วยงานราชการ
- ค่าบริการครอบคลุมเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หากอยู่นอกพื้นที่ดังกล่าวจะมีค่าบริการเพิ่มเติม
- ค่าบริการไม่รวมค่าจัดส่งเอกสารและค่าจัดส่งพัสดุ
ค่าธรรมเนียมจริง
- ค่าธรรมเนียมการยื่นต่ออายุวีซ่า (Renew Visa) = 1,900 บาท
- ค่าธรรมเนียมการขออนุญาตเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย (Re-Entry) : แบบครั้งเดียว (Single) = 1,000 บาท / แบบหลายครั้ง (Multiple) = 3,800 – 4,200 บาท
- ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) = 3,100 บาท (สำหรับ 1 ปี)
ผลงานและรีวิวลูกค้าจริง จาก RLC Outsourcing
RLC Outsourcing มีประสบการณ์ในบริการด้านการขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานมากมาย
ไพศาล XXX
“รู้สึกประทับใจที่มี RLC เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี มีการประสานงานกับหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนด้าน Visa และ Work Permit ของพนักงานอย่างมืออาชีพ รู้สึกอยากแนะนำ RLC ต่อเพื่อช่วยเหลือด้านการทำ Visa และ Work Permit ครับ”
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
คำตอบคือพนักงาน “ยังไม่สามารถเริ่มงานได้” เนื่องจากวีซ่าธุรกิจ Non-B เป็นเพียงวีซ่าที่อนุญาตให้พำนักเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ แต่ยังไม่สามารถเริ่มงานได้จนกว่าจะได้รับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ที่ออกโดยกรมการจัดหางาน
จำเป็นที่จะต้องยกเลิก “ทุกครั้ง” ที่พนักงานลาออก เพื่อไม่ให้บริษัทมีความเสี่ยงในอนาคต
แนะนำให้ต่ออายุก่อนหมดอายุ “อย่างน้อย 30 วัน” เพื่อเลี่ยงความล่าช้าในการดำเนินการ
พนักงานต่างชาติยัง “ไม่สามารถทำงานได้” เพราะการเริ่มงานก่อนที่ใบอนุญาตทำงานจะได้รับอนุมัติ ถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท และอาจมีผลกระทบกับสถานะวีซ่าของต่างชาติได้
โดยปกติแล้ว การขอใบอนุญาตทำงานต่างชาติ หรือ Work Permit และ Visa Non-B สำหรับชาวต่างชาติ 1 คน บริษัทจะต้องมี
- ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 2 ล้านบาท
- พนักงานไทยอย่างน้อย 4 คน (ที่มีประกันสังคมมาแล้วขั้นต่ำ 3 เดือน)
- สัดส่วนพนักงานคนไทย 4 คนต่อต่างชาติ 1 คน
ดังนั้นหากบริษัทยังไม่มีพนักงานไทย จะ“ไม่สามารถขอใบอนุญาติทำงานให้ต่างชาติได้”
ติดต่อเรา
หากคุณกำลังมองหาบริการรับทำวีซ่า Work Permit ครบวงจรที่เชื่อถือได้ และดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ RLC Outsourcing พร้อมเป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ เรายินดีให้คำปรึกษาและเริ่มขั้นตอนดำเนินการให้ทันที เพื่อให้คุณและพนักงานต่างชาติสามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างไร้ความกังวล
บุคลิกที่เป็น เสื้อผ้าที่ใส่ ขึ้นอยู่กับว่า วันนั้นฟังเพลงอะไร ;P