ในยุคที่การลงทุนและการทำธุรกิจสามารถเชื่อมโยงกันได้ทั่วโลก จึงมีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาลงทุนหรือเข้ามาทำงานในประเทศไทย ดังนั้น BOI วีซ่า และใบอนุญาตทำงาน จึงเป็น 2 องค์ประกอบหลักที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักธุรกิจและพนักงานต่างชาติในประเทศไทย ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ BOI วีซ่า และใบอนุญาตทำงาน ผ่านระบบ Single Window มาฝากกัน
BOI วีซ่า คืออะไร?
BOI วีซ่า คือ วีซ่าประเภทพิเศษที่ออกโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment: BOI) ของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดบริษัทต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะความรู้ความสามารถขั้นสูงเข้ามาทำงานและพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อยกระดับบริษัทของไทยให้มีมาตรฐานและมีนวัตกรรมที่ดีมากยิ่งขึ้น
ใบอนุญาตทำงาน
ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) คือเอกสารที่ออกให้โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาทำงานเป็นพนักงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องมีการขอและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเริ่มทำงาน
ความแตกต่างระหว่าง BOI วีซ่า กับ วีซ่าประเภทอื่นๆ
BOI วีซ่า เรียกได้ว่าเป็นวีซ่าพิเศษที่ออกมาเพื่อส่งเสริมการลงทุน และนำเข้าพนักงานต่างชาติที่มีทักษะสูง โดยจะได้รับสิทธิ์ประโยชน์ต่าง ๆ และการสนับสนุนจาก BOI ที่ค่อนข้างดีกว่า มีขั้นตอนในการขอที่ยุ่งยากน้อยกว่า เพราะสามารถขอได้ทั้งวีซ่าและใบอนุญาตทำงานได้ในที่เดียวกันที่ One Stop Service Center จามจุรีสแควร์ เมื่อเปรียบเทียบกับวีซ่า Non-B ที่เป็นวีซ่าสำหรับการทำงานของชาวต่างชาติตามปกติโดยทั่วไป ที่มีขั้นตอนยุ่งยากกว่า
ระบบ Single Window คืออะไร จำเป็นอย่างไรในการขอ BOI วีซ่า?
Single Window คือบริการออนไลน์ที่สามารถยื่นคำร้องและเอกสารประกอบได้พร้อมกันกับ 3 หน่วยงานหลัก:
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
- สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)
- กรมการจัดหางาน
ประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI
- ความสะดวก: ยื่นคำร้องออนไลน์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาและสถานที่
- กระบวนการที่เป็นระบบ: ได้รับการอนุมัติทุกขั้นตอนในคราวเดียว ทำให้นำต่างชาติผู้ชำนาญการเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการขอ BOI วีซ่า และ ใบอนุญาตทำงาน
ขั้นตอนการขอ BOI วีซ่า และใบอนุญาตทำงาน ที่ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (One Start One Stop Service)
- การเตรียมตัวและการยื่นคำขอ บริษัทนั้น ๆ จะต้องเป็นบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ถึงจะสามารถดำเนินการขอ BOI วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ให้กับพนักงานได้ โดยให้ยื่นคำขอวีซ่าผ่านทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผ่านช่องทาง Single Window for Visa and Work Permit เข้าใช้งานได้ที่ https://swe-expert.boi.go.th
มีวีซ่า Non B หรือ Non IB จากบริษัทเดิม เริ่มจาก ขออนุมัติตำแหน่งหน้าที่ของคนต่างด้าว > ขอบรรจุคนต่างด้าวและขออนุญาตให้ครอบครัวเข้ามาในประเทศ
ไม่มีวีซ่า Non B หรือ Non IB จากบริษัทเดิม เริ่มจาก ขออนุมัติตำแหน่งหน้าที่ของคนต่างด้าว > ขอความร่วมมือประทับตราวีซ่าของคนต่างด้าวและครอบครัว > ขอบรรจุคนต่างด้าวและขออนุญาตให้ครอบครัวเข้ามาในประเทศ
- การพิจารณาคำขอและการอนุมัติ เจ้าหน้าที่ BOI จะตรวจสอบเอกสารและพิจารณาคำขอวีซ่าและใบอนุญาตงาน หากเอกสารถูกต้องและครบถ้วน จะอนุมัติการออกวีซ่าและใบอนุญาตทำงานโดยใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ
- การรับ BOI วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เมื่อได้รับการอนุมัติ BOI วีซ่า และใบอนุญาตทำงาน กรณี Digital Work Permit บริษัทผู้ขอจะได้รับการแจ้งเตือนเพื่อให้ทำการนัดหมายแสดงตน หลังจากนัดหมายเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดงวันที่นัดหมาย จึงสามารถพิมพ์ใบ นัดหมายและใบชำระค่าธรรมเนียม เพื่อไปรับวีซ่า และ ใบอนุญาตทำงาน เป็นลำดับต่อไป
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขอ BOI วีซ่า และ ใบอนุญาตทำงาน
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอ BOI วีซ่า
- หนังสือเดินทาง (Passport) พร้อมสำเนาหนังสือเดินทางทุกหน้าที่มีการประทับตรา
- รูปถ่ายขนาด 4×6 เซนติเมตร เป็นไฟล์ดิจิตอล สำหรับอัพโหลดขึ้นระบบ Single Window
- หนังสืออนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI (BOI Promotion Certificate) ของบริษัท
- ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (ถ้ามี)
- สำเนาใบทะเบียนบริษัท (Company Registration Documents)
- แบบฟอร์มคำขอวีซ่า (Visa Application Form)
- เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น หนังสือเชิญจากบริษัทในประเทศไทย ประวัติส่วนตัวและประวัติการทำงาน เป็นต้น
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอใบอนุญาตทำงาน
- หนังสือเดินทาง พร้อมสำเนาทุกหน้าที่มีการประทับตรา
- วีซ่าประเภท Non-Immigrant B (หรือ BOI วีซ่า สำหรับผู้ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน)
- รูปถ่ายขนาด 4×6 เซนติเมตร เป็นไฟล์ดิจิตอล สำหรับอัพโหลดขึ้นระบบ Single Window
- เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น หนังสือเชิญจากนายจ้าง สำเนาใบทะเบียนบริษัท ที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
บริการของ RLC ในการขอ BOI วีซ่า และ ใบอนุญาตทำงาน
แน่นอนว่าการขอ BOI วีซ่า และ ใบอนุญาตทำงาน ก็เป็นส่วนหนึ่งในด้านงานบริหารทรัพยากรบุคลด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัท RLC ของเรานั้นมีความรู้และและความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านการขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานในฐานะที่เป็น HR Outsourcing ที่มีประสบการณ์มาแล้วมากมาย
เพื่อให้บริษัทของคุณนั้นสามารถโฟกัสไปที่การดำเนินธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของงานเอกสารและกระบวนการขอวีซ่า โดยที่ทางทีมงานของ RLC จะเป็นผู้ดูแลกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การเตรียมเอกสาร การยื่นคำขอตำแหน่ง ผ่านระบบ Single Window ไปจนถึงการติดตามผล พร้อมทั้งให้คำปรึกษาและบริการที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละบริษัทให้ได้มากที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- BOI วีซ่าคืออะไร? : BOI วีซ่า คือวีซ่าที่ออกให้กับชาวต่างชาติที่ทำงานกับบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของประเทศไทย
- ใครบ้างที่ขอ BOI วีซ่า ได้? : ผู้บริหารระดับสูงและผู้จัดการ, ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาชีพ, พนักงานและช่างเทคนิค, สมาชิกครอบครัวของพนักงานผู้ถือ BOI วีซ่า และนักลงทุนที่มีส่วนร่วมในการลงทุนในบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI
- ระยะเวลาการพิจารณาคำขอ BOI วีซ่าใช้เวลานานเท่าไหร่? : โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับกระบวนการและความซับซ้อนของเอกสาร
- สามารถต่ออายุ BOI วีซ่าได้หรือไม่? : ปัจจุบันสามารถต่ออายุล่วงหน้าได้ 90 วัน และวีซ่าต้องห้ามเหลือน้อยว่า 15 วัน
- ใบอนุญาตทำงานคืออะไร? : คือเอกสารที่ออกโดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ให้กับชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานในประเทศไทย
- ระยะเวลาการพิจารณาคำขอใบอนุญาตทำงานใช้เวลานานเท่าไหร่? : ประมาณ 3-5 วันทำการ
- สามารถต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้หรือไม่? : เช่นเดียวกับวีซ่า สามารถต่ออายุล่วงหน้าได้ 90 วัน และใบอนุญาตทำงานต้องห้ามเหลือน้อยว่า 15 วัน
- หากคำขอใบอนุญาตทำงานถูกปฏิเสธ ต้องทำอย่างไร? : ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานเพื่อขอทราบเหตุผล และดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องโดยเมื่อถูกคืนคำขอ จะสามารถแก้ไขได้ไม่เกิน 3 ครั้ง หากถูกปฏิเสธคำขอเกิน 3 ครั้ง ต้องทำการยื่นคำขอใหม่
- สามารถทำงานในประเทศไทยโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานได้หรือไม่? : การทำงานในประเทศไทยโดยที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและอาจถูกลงโทษได้
สรุป (Conclusion)
การมี BOI วีซ่า และ ใบอนุญาตทำงาน ไม่เพียงแต่จะช่วยให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สามารถนำเข้าผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารระดับสูงจากต่างประเทศมาเสริมทัพในการดำเนินงานได้แล้ว ยังช่วยให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ ตลอดจนช่วยพัฒนาทักษะให้กับบุคลากรในประเทศได้อีกด้วย
ซึ่งการเลือกใช้บริการของ RLC สำหรับการขอ BOI วีซ่า และ ใบอนุญาตทำงาน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยลดความยุ่งยากในการดำเนินการได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เจ้าของธุรกิจมุ่งเน้นไปที่การบริหารเพื่อการเติบโตทางธุรกิจทั้งในระดับประเทศและระดับสากลได้อย่างเต็มที่
SEO Specialist and Client Success at RLC Outsourcing